ถ้าจำไม่ผิดเมื่อ 3 - 5 ปีก่อน รูปแบบและสีผิวของงานออกแบบ ทั้งงานสถาปัตยกรรม และโดยเฉพาะงานตกแต่งภายในนั้นจะมี "Style" แบบหนึ่งที่เรียกว่า Nature Style หรือ "Earth Tone" คำหลังนี้ก็คือ สีของแผ่นดิน สีของธรรมชาติรอบตัว สีของธรรมชาติ สีของดินก็คือ สีครีม สีน้ำตาล รูปแบบของธรรมชาติก็คือ วัสดุอุปกรณ์ที่ยังคงสภาพธรรมชาติเช่น ไม้ ก้อนหิน แผ่นหิน กรวด ทราย การออกแบบในแนวธรรมชาตินั้นมักใช้กับการตกแต่งและอาคารที่อยูท่ามกลางธรรมชาติ เพื่อการพักผ่อนหรือกิจกรรมที่ไม่เป็นทางการ เราจะสร้างสื่อที่เป็นธรรมชาตินี้กับสถาปัตยกรรมได้อย่างไร คงต้องมาดูกันเป็นส่วนๆ เพราะองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมมีมาก และอยู่ในสภาพที่แตกต่างกัน
1. พื้น พื้นลำดับแรก คือ พื้นภายนอกบ้าน แบ่งเป็น 2 บริเวณ คือพื้นถนนและลานรอบตัวบ้าน วัสดุที่นำมาสร้างเนื้อหาให้เป็น Nature Touch ได้ก็คือ หินแผ่นชนิดต่างๆ เช่น หินแกรนิต (ธรรมชาติ) หินทราย หินกาบ กรวด หินล้าง ทรายล้าง พื้นซีเมนต์พิมพ์ลายทาสี (พิมพ์เป็นลายเหมือนปูหินแผ่น แล้วทำสีให้ดูเป็นธรรมชาติ) กระเบื้องดินเผาเคลือบและไม่เคลือบชนิดต่างๆ ไม้ซึ่งมักจะเป็นท่อนไม้ซุง แว่นไม้
2.พื้นภายใน สามารถใช้ไม้แผ่นและวัสดุเช่นเดียวกับข้อ 2 นอกจากนี้การใช้พรมผ้าฝ้ายทอ ขนสัตว์ทอ ก็สามารถสร้างรูปลักษณ์อย่างธรรมชาติได้
3.ผนังภายนอก วัสดุก่อสร้างและตกแต่งผนังภายนอกนั้นมีมากมาย ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์ การเลือกใช้ ความสะดวกในการจัดหามาใช้ แบ่งได้หลายประเภท เช่น อิฐมอญ อิฐรู อิฐโชว์ อิฐมวลเบา ไม้แผ่น ปีกไม้ ไม้ซุง กิ่งไม้ หินก้อน หินแผ่น หินกาบ หินเทียม ปูนซีเมนต์ ฉาบผิวหยาบ ทำลวดลายแบบพื้นบ้าน แล้วทาสี
ข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมของวัสดุแต่ละชนิดนั้นจะพูดรวมกันไป โดยแยกเป็นชนิดของวัสดุ ดังนี้
1. ไม้ ในที่นี้คือไม้แผ่นและไม้ธรรมชาติ ข้อดีคือเป็นวัสดุก่อสร้างพื้นฐาน ประกอบติดตั้งง่าย ใช้ได้ทั้งภายนอกและภายในมีหลายชนิด ทำสีได้หลากหลาย ข้อเสียยืดหดตัว มด ปลวก มอด แมลง ทำลาย
2. อิฐ ก่อสร้างติดตั้งได้ง่าย ในกรณีที่ติดตั้งโชว์ผิวพื้น จะมีอายุการใช้งานไม่ยาวนาน ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ที่ใช้ จึงต้องมีการเคลือบผิว
3. หิน ข้อดีคือทนทาน ให้บรรยากาศธรรมชาติได้ดีมาก ข้อเสียคือน้ำหนักมาก ต้องใช้เทคนิคและการปรับแต่งเพื่อเหมาะกับการติดตั้ง และจำเป็นต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมในสถานที่ต่างๆ กัน เช่น แห้งเปียกชื้น เป็นพื้นหรือเป็นผนัง และจำเป็นต้องปรับพื้นที่ ปรับโครงสร้างในแง่ของความแข็งแรง เพื่อรับน้ำหนักของหินนั้นๆ หินที่ใช้ส่วนใหญ่จะมีสองลักษณะ คือ เป็นแผ่นแบบขนาดตามธรรมชาติ หรือสกัดกะเทาะให้ได้ขนาดตามต้องการ และเป็นก้อนซึ่งเป็นก้อนตามธรรมชาติ หรือสกัดตามขนาดที่ต้องการ ฝรั่งเรียกหินอย่างนี้ว่า "Hammer Rock" บ้านเราก็คือหินก้อนที่ใช้ก่อสร้างและทำเขื่อนกันดินนั่นเอง ทรายล้าง หินล้าง เป็นลักษณะการนำวัสดุธรรมชาติมาตกแต่งและก่อสร้างอย่างหนึ่ง ที่ทำกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว โดยจะใช้ทรายหรือหินเกล็ดขนาดต่างๆ กันมาผสมปูนแล้วฉาบลงบนพื้นหรือผนังพอหมาดก็ใช้แปรงชุบน้ำลูบเนื้อซีเมนต์ออกจะเห็นหินหรือทรายเด่นขึ้นมา แต่ถ้าไม่ทำดังกล่าวก็จะฉาบแล้วปาดให้เรียบแล้วใช้เครื่องขัด ก็จะได้พื้นเป็นลายหินเม็ดตามขนาด สีสัน และลวดลายที่ใส่ลงไป
ที่มา: นิตยสารบ้านและสวน
